Buriram 21 km : Now is the best time to...
by TC-triathlon
Buriram 21 km : Now is the best time to...
จังหวะการเต้นของหัวใจ พุ่งสูงขึ้นไปจนเกือบแตะ 180 ครั้ง/นาที
วงเวียนอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 อยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ ขาทั้งสองข้างยังคงก้าวไปข้างหน้าในความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มากกว่า 17 กิโลเมตร ที่ผ่านมา มันเหมือนกับความฝันที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่อนคลาย สบาย ราวกับว่าผมกำลังบินอยู่เหนือพื้นดิน
แต่แล้วเมื่อขีดจำกัดรวมกับความเจ็บปวดของปัจจุบันเริ่มคืบคลานเข้าจู่โจม ทั้ง ร่างกายและจิตใจ สองขาและสองแขนยังคงแกว่งต่อไป เพื่อให้ร่างกายขับเคลื่อนไปข้างหน้า
เมื่อขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจถูกท้าทาย ความคิดของผมขณะตอนนั้นไม่มีทั้งลบและบวก มีเพียงความเงียบสงบ และ การอยู่กับปัจจุบัน
เส้นชัยที่รออยู่ข้างหน้า, สถิติส่วนตัวที่ต้องการทำลาย , ร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้า ณ วินาทีนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่สำหรับผม
Pre-race
ผมเดินทางถึง บุรัรัมย์ในช่วงเย็นวันศุกร์เพื่อให้เวลาจัดการกับธุระส่วนตัว และ ต้องการให้ตัวเองได้นอนเต็มที่ในคืนวันศุกร์ เพราะคาดว่าคืนวันเสาร์น่าจะนอนได้น้อยกว่าปกติอย่างแน่นอน
บุรีรัมย์ ยังคงเป็นเมืองเล็กที่น่ามาเที่ยว พักผ่อน และ แข่งกีฬา เหมือนเดิม ถนน 4-6 เลน ที่นำผมไปสู่ตัวเมืองทั้งโล่งและเรียบ เหมือนกับกำลังรอให้นักวิ่งทุกคนมาเติมความว่างเปล่า , เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ตัวเอง และ ฝากความประทับใจและแรงบันดาลใจให้ชาวบุรีรัมย์
Race day
ผมเริ่มต้นวันด้วยการทานอาหารเช้า ที่ย่อยง่ายในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไป เพราะวันนี้ เป็นการวิ่งในระยะฮาล์ฟมาราธอน
ก่อนมาแข่งที่นี่ ผมถามโค้ชเกี่ยวกับแผนการแข่ง และ ได้คำตอบว่า ให้วิ่งครึ่งแรกให้สบายที่สุด และ ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นหลังจากพ้น 10 กม และ หากยังคงรู้สึกดีอยู่หลังจาก 15 กม ให้วิ่งไปที่ 80-90% ของตัวเองและเร่งเข้าเส้นชัย
หลังจากเข้าห้องน้ำที่บริเวณสนามแข่งเรียบร้อย ตอนนั้นเหลือเวลาประมาณ 15-20 นาที ก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้น ผมจัดการไปฝากของและไปที่ Block A โดยพยายามแทรกตัวไปอยู่ข้างหน้าให้มากที่สุด
ช่วง 1-2 กม แรก ยังคงเป็นช่วงที่ผมพยายามไม่เร่งความเร็วมากนักเพื่อถนอมร่างกายไว้ใช้ในครึ่งหลัง เพซเฉลี่ยที่นาฬิกายังคงเป็น เลข 5 ปลายๆ
หลังจากวิ่งพ้นออกจากสนามแข่งรถบุรีรัมย์เซอร์กิต ที่เป็นจุดสตาร์ท ผมเร่งความเร็วขึ้นไปที่ 70-80% ตามความรู้สึกของร่างกาย และ พยายามไม่เหลือบดูนาฬิกาเพื่อให้ตัวเองวิ่งไปตามจังหวะที่ลื่นไหลได้นานที่สุด
พ้น หลัก 10 กม ไปแล้วและเพซเฉลี่ยยังคงอยู่ที่เลข 5 ซึ่งถ้าหากผมต้องการทำลายสถิติส่วนตัว ตอนนี้คือช่วงที่ควรเร่งความเร็วให้มากขึ้นได้แล้ว
Be Calm, Be Quiet ,Be Present คือ สามสิ่งที่ผมนึกและเตือนตัวเองอยู่ตลอดตั้งแต่เริ่มวิ่งวันนี้
เพราะปัจจุบันคือของขวัญที่ดีที่สุด และ ตอนนี้ นาทีนี้ วินาทีนี้ เราทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จ นั่นคือ ทำเวลาให้ดีกว่า 1.44.28 ชม
รักษาความลื่นไหลของการวิ่ง
ใช้แรงโน้มถ่วงดึงเราไปข้างหน้า
แกว่งแขนช่วย
สลับและเปลี่ยนชุดกล้ามเนื้อในการวิ่งเพื่อลดความล้า
ผลักเท้าให้แข็งแรง
ก้าวเร็ว ก้าวยาว
ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ผมพยายามทำหลังจากรู้ตัวว่าหากต้องการ Persoanl Best ผมต้องวิ่งให้เร็วกว่านี้
Post-race
1.46.25 ชม คือ เวลา chip time ที่ผมทำได้ของการแข่งวันนี้ แน่นอนว่า มันไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุด และ ช่วง 3 กม สุดท้ายคือ ช่วงที่ผมเหนื่อยและล้ามาก จนทำให้วิ่งได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็ดีใจที่ผ่านมันมาได้โดยไม่ต้องหยุดเดิน
Step back , Step up , Step in * (from Perform Under Pressure by Ceri Evans)
คือ สามสิ่ง ที่ผมใช้ในช่วง 3 กม สุดท้าย ใช่ครับมันเป็นช่วงที่นักวิ่งทุกคนรู้สึกแย่และเริ่มหมดแรงรวมทั้งตัวผมเองด้วย
Step back : ถอยตัวเองออกมาจากความรู้สึกนั้นให้เร็วที่สุด
Step up: มองภาพรวมและวิเคราะห์ว่าเรากำลังเป็นอย่างไร
Step in: มีการกระทำเพื่อให้เรายังคงวิ่งไปได้ ในความเร็วที่มากขึ้นหรือเท่าเดิม
การวิ่งที่บุรีรัมย์ วันนี้ อาจจะไม่ใช่วันที่ดีที่สุดของผม แต่อย่างน้อยที่สุดผมได้เรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับตัวเองในช่วงเวลาที่ร่างกายและจิตใจต้องก้าวข้ามขีดจำกัด
แล้วการแข่งของคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ
TC-triathlon
Inspire - Knowledge - Race review
คลิกที่นี่ เพื่ออ่าน Blog ภาษาไทย โดย TCtriathlon
click here to read more of TCtriathlon's blog
click here to subscribe and get
FREE sub 4 hours marathon
FREE sub 2 hour half marathon
FREE sub 3 hours standard triathlon training plan
TC Triathlon
Subscribe, like and share for more useful articles, photos and videos.
